Alangkarn
หนึ่งในโซนอาหารที่โดดเด่นที่สุดของไอคอนสยาม คือโซน “อลังการ” พื้นที่บนชั้น 6 ที่เป็นเหมือน The Paradise of Eatery ตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ สะดุดตา ได้บรรยากาศของนาข้าวไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมอาหารของบ้านเมืองเรา โดยมี Dining Pavilion สถาปัตยกรรมกึ่งประติมากรรมทั้งหมด 10 หลัง ออกแบบโดย 3 ศิลปินแนวหน้าของไทย คือคุณโด่ง - พงษธัช อ่วยกลาง ผู้สร้างสรรค์ Pavilion จากเหล็กขึ้นมา 5 หลัง คุณโด่งนำรูปแบบเครื่องมือกสิกรรมของชาวบ้านมาต่อยอด คุณกรกต อารมย์ดี ศิลปินผู้เชี่ยวชาญเทคนิคการมัดว่าว ออกแบบ Pavilion 3 หลัง ได้แรงบันดาลใจมาจากพืชพันธุ์ธัญญาหาร จึงทำ Pavilion เป็นรูปทรงของฟักทอง รวงข้าวสีทองและกระต๊อบริมนา ศิลปินคนสุดท้ายคือคุณปิ่น - ศรุตา เกียรติภาคภูมิ ผู้ทำงานเกี่ยวกับเหล็กมาจนคุ้นเคย จึงทำ Pavilion จากเหล็กทั้ง 2 หลัง เป็นรังไหมสีทองและภาชนะที่คอบโอบอุ้มข้าวไว้
อีกไฮไลต์ของโซนอลังการ ที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตกที่สูงถึง 15 เมตร สร้างสรรค์โดยบริษัท Ghesa Water & Art ผู้สร้าง The ICONIC Multimedia Water Features ระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในอาเซียน โดยน้ำตกบริเวณนี้เปรียบเสมือนฝนทิพย์ที่ก่อให้เกิดสวรรค์บนดินที่ชุ่มฉ่ำหล่อเลี้ยงชีวิตของคนไทยมาเนิ่นนาน
ส่วนร้านอาหารบนชั้น 6 มีครบครันทุกประเภท โดยมีร้านอาหารคาวถึง 16 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล อาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น อาหารอินเดีย ฯลฯ และร้านของหวาน เครื่องดื่ม ไอศกรีมอีกราว 12 ร้าน ไม่ว่าจะชอบอาหารสไตล์ไหน กดลิฟต์ขึ้นมาบนชั้น 6 ต้องเจอร้านที่ตรงใจแน่นอน
ส่วนร้านอาหารที่อยู่ใน Dining Pavilion มีทั้งร้านทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ที่อยู่ใน Pavilion รวงข้าว ฝีมือคุณกรกต อารมย์ดี ซึ่งข้าวก็ถือเป็นส่วนประกอบตั้งต้นในการทำเส้นผัดไทยด้วย โดยผัดไทยทิพย์สมัยคือผัดไทยเจ้าแรกของประเทศที่สืบทอดสูตร คุณภาพ และความอร่อยมาถึง 79 ปีเต็ม ที่สำคัญคือมีเมนูพิเศษ ที่ขายเฉพาะในไอคอนสยามด้วย นั่นคือผัดไทยเส้นจันท์เก้าเกลอ (ใส่ผัก 9 อย่าง) และผัดไทยสามเกลอ (ใส่เห็ด 3 อย่าง) ส่วนเมนูซิกเนเจอร์อย่างผัดไทยเส้นจันท์ใส่มันกุ้งก็มีให้ทุกคนได้กินแบบไม่ต้องไปต่อคิวนานๆ ด้วย
ร้านต่อมาที่อยู่ใน Dining Pavilion ไม้ไผ่ ฝีมือคุณกรกตเช่นกัน คือเลลาว ร้านอาหารไทย ที่ส่งตรงวัตถุดิบมาจากหัวหิน และมาพร้อมคอนเซปต์ “เราทำอาหารกินที่บ้านอย่างไร ก็เสิร์ฟให้ลูกค้าที่ร้านแบบนั้นเช่นกัน” จุดเด่นของร้านนี้คือ การนำวัตถุดิบหลักมาจากทะเลหัวหิน ใช้น้ำตาลโตนดจากเพชรบุรีในการประกอบอาหาร ถ่านที่ใช้ย่างก็เป็นแบบไร้ควัน ไร้สารก่อมะเร็ง ข้าวคั่วและพริกก็คั่วสดใหม่ทุกวัน เรียกได้ว่าเลลาวใส่ใจทุกองค์ประกอบที่อยู่ในจานอย่างแท้จริง
ส่วนอาหารที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือ หมึกไข่จ้าวทะเล, ยำปูทะเลไข่, ปลากระพงทอดลุยสวน เมนูอาหารทะเลที่ใช้วัตถุดิบสดมาก ทั้งสามเมนู ส่วนรสชาติก็เข้มข้น พอกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ยิ่งเข้ากัน
ร้านอาหารไทยใน Dining Pavilion ยังมี แม่ศรีเรือน กับ ลูกไก่ทอง อีกสองร้าน รวมถึงร้านอาหารจีน Grand Palace ที่โดดเด่นทั้งติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง และอาหารจีนระดับภัตราคารอีกหลายเมนู รวมถึงร้านอาหารเกาหลีชื่อดัง Bibimbab ร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Den และร้านสลัดคุณภาพเยี่ยมอย่าง Farmfactory
นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ Dining Pavilion ยังมีร้านอาหารนานาชาติอีกมากมาย ทั้งร้านไก่ทอดเกาหลีที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Bon Chon หรือร้านทงคัตสึที่เติมข้าวเติมผักได้ไม่อั้นอย่างทงคัตสึวาโก รวมถึงร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย รองรับได้กว่า 400 ที่นั่ง CP-HiLai Harbour ซึ่งมีทั้งอาหารทะเล อาหารยุโรป ซูชิ อาหารจีน อาหารไทย ขนมหวาน ฯลฯ
แต่หากใครอยากกินบุฟเฟ่ต์ชาบูก็มีร้าน Mo-Mo Paradise ที่มีตัวเลือกอาหารหลากหลายไว้รองรับทุกคน นอกจากนี้ยังมี Yayoi ซึ่งไม่เหมือนสาขาอื่นๆ แน่นอน เพราะเป็น Flagship Store แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เสิร์ฟอาหารเซ็ตระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งเป็น Yayoi สาขาแรกของโลกที่มีซูชิบาร์ ทำกันสดๆ คำต่อคำ หรือหากใครอยากกินอาหารอินเดีย บนชั้น 6 ก็มีร้าน Masala Art ที่เสิร์ฟอาหารอินเดียแท้ๆ ถึงรสเครื่องเทศ
นอกจากนี้ที่ชั้น 6 ยังมีร้าน Yazu Ramen ร้านของหวานอย่าง After You, Cake Code, Bake a Wish, Yakun Kaya Toast, Kane Mochi, Dolce Sorbetto รวมถึงร้านเครื่องดื่ม Kamu, ชาตรามือ และร้านชานมไข่มุกส่งตรงจากไต้หวันอย่าง Good Day Good Time
ความหลากหลายทั้งหมดทั้งมวลของอาหารในโซนนี้ ทำให้อลังการน่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าจะชอบอาหารแนวไหน มื้อหนัก หรือเบา ก็มีร้านที่พร้อมรองรับความต้องการของทุกคน ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของโซนนี้ คือการตกแต่ง ที่มีเรื่องราว โชว์บรรยากาศไทยๆ สไตล์โมเดิร์นได้อย่างสวยงาม เป็นอาหารตาที่สร้างความประทับใจให้ทุกมื้อได้แน่นอน